4 step

  • 1

    Calculate premium

  • 2

    Place order

  • 3

    Pay premium

  • 4

    Get coverage

Calculating Car Insurance Premium

Calculating Premiums of Other Types of Insurance

Please select your insurance product and its relevant details to calculate premium.

Premium including tax and duties 0 Baht

Place an order Revise for calculate

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ

พ.ร.บ.

Insurance
  • กฎหมายบังคับให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับการขนส่งทางบกจะต้องทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. ฝ่าฝืนจะมีความผิด โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และให้เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถเก็บรักษาหลักฐานแสดงการมีประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยจากรถไว้ให้พร้อมที่จะแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทุกเวลาที่ใช้รถ เว้นแต่กรณีรถคันดังกล่าวได้จดทะเบียนหรือชำระภาษีประจำปีแล้ว
  • ในการจดทะเบียนรถหรือการชำระภาษีรถประจำปี กรมการขนส่งจะตรวจสอบว่าได้มีการจัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) แล้ว จึงจะรับจดทะเบียน หรือชำระภาษีประจำปีได้
  • การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุรถยนต์ ทุกคนที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินถนน หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย รวมไปถึงทายาทของผู้ประสบภัยข้างต้น ในกรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต

หมายเหตุความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น (คลิกอ่านรายละเอียด) เป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย   

รู้ลึกรู้จริง ประกันรถยนต์ เลือกซื้อให้เหมาะกับคุณ

 

            การทำประกันรถยนต์ อาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม แต่ความสำคัญของมันมีอยู่มากมาย ซึ่งเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงและอย่าเพิ่งมองว่าการซื้อประกันรถยนต์เป็นเรื่องทางภาระที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายให้คุณ ถ้าหากคุณทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ดีแล้วล่ะก็ คุณก็จะรู้ว่านี่เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในอนาคตหากคุณเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงต่างหาก เพราะสิ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือเรามักจะพบเห็นคนที่ประสบอุบัติเหตุมากมายบนถนนหนทาง ที่สำคัญไปกว่านั้น เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า คนที่จะประสบอุบัติเหตุในวันใดวันหนึ่งจะเป็นเราหรือไม่ ดังนั้นหากเราสามารถป้องกันหรือวางแผนเพื่อบรรเทาความเสี่ยง จะถือว่าเป็นเรื่องที่ดี สำหรับตัวเราเองเป็นอย่างมาก

 

ประกันภัยประเภทต่างๆ

            ในปัจจุบันเราสามารถจำแนกประเภทของประกันภัยรถยนต์ ตามการจัดลำดับชั้นของการประกันเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ทำประกันได้อย่างครอบคลุม แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบดังนี้

 

  •             ประกันภัยชั้น 1
  •             ประกันภัยชั้น 2+
  •             ประกันภัยชั้น 2
  •             ประกันภัยชั้น 3
  •             ประกันภัยชั้น 3+

 

            ประกันภัยแต่ละชั้น มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ต้องการทำประกันที่สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้รวมถึงอายุการใช้งานของรถเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดสิทธิประโยชน์ของผู้ที่จะได้รับจากการทำประกันภัยในชั้นนั้นๆด้วย ไปดูรายละเอียดของประกันภัยแต่ละชั้นกัน

 

  • ประกันภัยชั้น 1

            ผู้ทำประกันจะต้องมีรถใช้งานไม่เกิน 7 ปี ความคุ้มครองของประกันภัยครอบคลุมความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกรวมถึงทรัพย์สินแม้ว่าไม่มีคู่กรณี ครอบคลุมกระจกแตกตลอดจนถูกไฟไหม้ สูญหายและรถเกิดการเสียหายจากภัยธรรมชาติ

 

  • ประกันภัยชั้น 2+

            เหมาะกับผู้ที่มีรถยนต์อายุการใช้งานเกิน 7 ปี ไม่เกิน 15 ปี ซึ่งประกันภัยชั้น 2+ แตกต่างจากประกันภัยชั้น 1 แคร์เรื่องอายุการใช้งานของรถที่มีมากกว่า และการคุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีและกระจกรถแตกเท่านั้น

     

  • ประกันภัยชั้น 3+

เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีการใช้งานอายุไม่เกิน 30 ปีและความคุ้มครองเพียงแค่รับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกและทรัพย์สินรวมถึงบริการรถยก 24 ชั่วโมงเท่านั้น

 

  • ประกันภัยชั้น 2

            เป็นการให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์ที่เอาประกันเกิดความเสียหายจากไฟไหม้เกิดการสูญหายซึ่งมีเงื่อนไขแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท เช่น เงื่อนไขการให้ความคุ้มครองแต่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพื่อป้องกันส่วนนี้เพิ่ม ขณะที่ประกัน ภัยจากธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมหรือแผ่นดินไหวส่วนใหญ่จะไม่ให้ความคุ้มครอง

 

  • ประกันภัยชั้น 3

            ให้ความคุ้มครองด้านความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกรวมถึงทรัพย์สินเท่านั้น ไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบในกรณีอื่น

 

            ในกรณีที่เราจะทำประกันรถยนต์ จำเป็นที่จะต้องเลือกบริษัทประกันภัยที่ดีที่สุดและเราไว้วางใจได้มากที่สุด ถ้ามีผลต่อสิทธิประโยชน์ในการคุ้มครอง เราจึงจำเป็นต้องเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่จะได้รับจากหลายๆบริษัท โดยการศึกษาเงื่อนไขและผลประโยชน์จากการทำประกันภัยให้ละเอียด โดยเฉพาะประกันภัยชั้น 1 และประกันภัยชั้น 2+ ที่มีความแตกต่างกันไม่มากและต่างเพียงแค่อายุการใช้งานของรถยนต์เท่านั้น

 

            นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบของการประกันรถที่เราต้องรู้คือการประกันรถเติมเงินและประกันรถยนต์รายปี 2 รูปแบบนี้เราควรเลือกใช้แบบไหนไปดูรายละเอียดกัน

 

  •             การประกันรถแบบเติมเงิน เรียกว่าเป็นการประกันรถยนต์ชั่วคราวซึ่งมีอยู่ในต่างประเทศ เป็นการทำประกันแบบเฉพาะกิจ เพื่อเติมความคุ้มครองในกรณีที่ขนของเพื่อย้ายบ้านหรือหัดขับรถใหม่รวมไปถึงการยืมรถเพื่อออกทริปและคนที่ใช้รถไม่บ่อย เป็นต้น กรณีแบบนี้จะค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่ใช้รถชั่วครั้งชั่วคราวในกรณีที่จำเป็น ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณไม่มาก แต่เราจะต้องจดจำวันคุ้มครองให้ดีห้ามลืมวันหมดอายุก็มาทำเด็ดขาด 2 รูปแบบการใช้งานไม่แตกต่างจากการใช้โทรศัพท์แบบเติมเงินเลยล่ะ
  • ประกันรถยนต์ ใส่ครั้งเดียวคุ้มครองทั้งปี เป็นรูปแบบของการประกันที่ค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่ต้องใช้รถเป็นประจำทุกวัน แนะนำว่าซื้อประกันรถยนต์จ่ายรายปีแบบนี้จะดีและคุ้มค่ามากกว่าเพราะไม่ต้องวุ่นวาย คอยต่อความคุ้มครองและไม่ต้องคอยนั่งกังวลว่าประกันรถจะหมดวันไหน เราสามารถใช้รถขับขี่บนท้องถนนได้อย่างสบายใจไปจนตลอดทั้งปีนั่นเอง

 

            จากข้อมูลทั้งหมด เราคงพอจะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ กันมากขึ้นแล้ว และถ้าหากคุณต้องการซื้อประกันภัยรถยนต์ แต่ยังคงต้องการข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อทราบความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากที่สุด คุณสามารถเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://vstore.viriyah.co.th/th/insurance-motor.php

 



> โปรดอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
x